News

ตร. ออกหมายจับ 2 นายจ้างอินเดีย ฆ่าหั่นศพแรงงานพม่า พัวพันค้ามนุษย์

สน.ท่าข้าม จ่อออกหมายจับ 2 นายจ้างจัดหางานชาวอินเดีย ผู้ต้องสงสัยฆ่าหั่นศพแรงงานพม่า พบทั้งคู่ได้เผ่นหนีออกนอกประเทศไปแล้ว

จากกรณีนายซันดาราเวล ปกาดีส คูมา อายุ 23 ปี เจ้าของบริษัทจัดหางานชาวอินเดีย กับพวกอีก 1 คน ร่วมกันก่อเหตุฆ่าหั่นศพนายอา เซ ไค อายุ 35 ปี แรงงานชาวเมียนมา ออกเป็น 6 ท่อน ก่อนอำพรางศพด้วยการแช่ชิ้นส่วนทั้งหมดลงในตู้เย็น เหตุเกิดที่อาคารพาณิชย์ เลขที่ 522 ซอยสะแกงาม 35/3 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา


ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ สน.ท่าข้าม เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 ม.ค. 67 พ.ต.ท.จักรี ดิษใจ สว.(สอบสวน) สน.ท่าข้าม เจ้าของคดี เปิดเผยว่า วันนี้ได้นัดพยานแวดล้อม เป็นพนักงานในบริษัทจัดหางานของนายซันดาราเวล ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ เพื่อมาสอบหาข้อมูลข้อเท็จจริง ถึงการนำแรงงานต่างชาติชาวเมียนมาเข้ามาทำงานในเมืองไทย รวมทั้งนำพยานที่เห็นเหตุการณ์ตอนนายซันดาราเวล คนร้าย มากับเพื่อนอีก 1 คน ขับรถเข้ามาเมื่อช่วง 15.00 น. วันที่ 19 ม.ค. มาให้ปากคำ โดยวันนี้ได้ประสานกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในการประสานกับทางสถานทูตเมียนมา เพื่อนำศพนายอา เซ ไค ผู้เสียชีวิต กลับไปยังประเทศเมียนมา ทั้งนี้ นายอา เซ ไค ยังไม่ได้จดทะเบียนแรงงานต่างด้าวตามกฎหมายแต่อย่างใด 


ด้าน พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่แน่ใจเรื่องแรงจูงใจการก่อเหตุ ไม่ทราบมีปากเสียงกันมาก่อนหน้าหรือไม่ แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาว เบื้องต้นทราบว่าตัวของนายซันดาราเวล นายหน้าชาวอินเดีย ขออนุญาตเข้ามาแบบถูกต้อง เข้ามาอยู่ในไทยหลายปีแล้ว เบื้องต้นมีการจดทะเบียนในรูปแบบบริษัทกับกรมธุรกิจการค้า เป็นเรื่องของการค้า แต่ประเด็นอื่นต้องรอสืบสวนว่าทำธุรกิจอะไรบ้าง เพราะนายหน้าคนดังกล่าวเข้ามาอยู่ในไทยหลายปีแล้ว ส่วนตัวของแรงงานอาจเข้ามาแบบผิดกฎหมาย


เบื้องต้นตอนนี้ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดียทั้งหมด 2 คน ขณะนี้ทั้ง 2 คนได้หนีออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนพยานจากการสอบปากคำให้การเป็นประโยชน์ น่าจะเพียงพอในการออกหมายจับได้ ซึ่งขอดูรายละเอียดของพยานหลักฐานต่างๆ ให้ครบถ้วนก่อน หากพร้อมจะออกหมายจับต่อไป 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายซันดาราเวล ผู้ก่อเหตุชาวอินเดีย ได้จดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ซิก้า โกรเซรี่ส์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 66 ดำเนินธุรกิจในการจัดหาแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยทำการจดทะเบียนตั้งบริษัทให้ถูกกฎหมายก่อน จากนั้นจึงมีการลักลอบนำแรงงานผิดกฎหมายเข้ามาทำงานในเมืองไทย 


ขณะที่ น.ส.วลัยลักษณ์ นาคดี อายุ 44 ปี พยานที่เห็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า พบเห็นชายชาวอินเดียนำแรงงานพม่าเพิ่งเข้ามาเช่าบ้านหลังดังกล่าว ต่อมาวันที่ 19 ม.ค. เวลาประมาณ 15.00 น. ชายชาวอินเดียใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ เป็นคนขับรถยนต์ยี่ห้อเอ็มจี สีแดง ทะเบียน 1 ขช 5422 กรุงเทพมหานคร โดยพยายามถอยรถเข้าบ้าน แต่ปรากฏว่าข้างรถฝั่งซ้ายได้ครูดกับประตูเป็นรอยยาวเสียงดัง ตนจึงออกไปดู เห็นว่าชายคนดังกล่าวมีท่าทีโมโห 


น.ส.วลัยลักษณ์ กล่าวว่า จากนั้นเวลาประมาณ 18.00 น. ทั้ง 2 ได้ขับรถออกไป ก่อนที่เวลา 19.00 น. ชายชาวอินเดียทั้ง 2 คน ได้ขับรถนำรถกระบะบรรทุกตู้เย็นกลับเข้ามาที่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนที่เวลา 21.00 น. ชายชาวอินเดียทั้ง 2 คน จะขับรถออกไป โดยตนสังเกตว่าชายคนหนึ่งได้ก้มดูประตูบานเลื่อนหน้าบ้าน เหมือนดูว่าจะมีใครมองเห็นหรือไม่ ก่อนเหยียบประตูบานเลื่อนปิดพับและล็อกกุญแจ โดยตนได้ยินเสียงแอร์ทำงานที่ชั้นบนของบ้าน ทำให้เข้าใจว่ายังมีคนอยู่ที่ชั้นบน 


ต่อมา เวลา 11.00 น. วันเดียวกัน ชุดสืบสวน สน.ท่าข้าม ได้เชิญล่ามชาวพม่า ซึ่งเป็นญาติของกลุ่มแรงงานชาวเมียนมามาให้ปากคำ ภายหลังล่ามรายนี้ระบุว่า กลุ่มผู้ตายเป็นชาวเมียนมา ขอมาทำงานที่ประเทศไทย เนื่องจากสถานการณ์การเมืองไม่สงบ จึงติดต่อมาพร้อมกับเพื่อนอีก 5 คน (รวมผู้ตายเป็น 6 คน) โดยกลุ่มของผู้ตายเดินทางมาถึงชายแดนในวันที่ 11 ม.ค. จากนั้นมีนายหน้าเป็นชาวอินเดีย เดินทางเข้าไปรับในวันที่ 12 ม.ค. ก่อนจะเดินทางมาถึงที่พักภายในซอยสะแกงาม 35/3 ในวันที่ 14 ม.ค. โดยนายหน้าชาวอินเดียรายนี้ได้คิดค่าหัวในการหางานให้กับกลุ่มของผู้ตาย ตกหัวละ 7,000 บาท โดยยังไม่รู้ว่าจะไปทำงานอะไร กลุ่มผู้ตายรวมทั้งหมด 6 คน ถูกขังอยู่ห้องภายในที่พักซึ่งเป็นจุดพบศพ หลังจากนั้นนายหน้าชาวอินเดียได้เรียกกลุ่มของผู้ตายขึ้นไปพูดคุยด้วย โดยได้เริ่มถามก่อนว่าใครอายุมากสุดให้เดินตามขึ้นมาที่ชั้น 3 ของอาคาร ผู้ตายเป็นคนมีอายุมากที่สุด จึงเดินตามขึ้นไปพูดคุยด้วยเพียงลำพัง แต่ไม่ทราบว่ามีการพูดคุยอะไรกัน ก่อนจะกลายเป็นศพดังกล่าว

ต่อมาเวลา 12.00 น. ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม นำตัวเพื่อนผู้ตายเป็นชายชาวเมียนมา 3 คน เดินทางออกจากห้องสืบสวน เพื่อส่งพนักงานสอบสวนให้สอบปากคำ ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทั้ง 3 คน มีสีหน้าเรียบเฉย ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม สำหรับแนวทางการสอบสวนของพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำเพื่อนผู้ตายทั้ง 3 คนในฐานะพยานที่เดินทางมาหางานทำให้เมืองไทย ผ่านบริษัทจัดหางานของนายซันดาราเวล ผู้ต้องหา รวมถึงประเด็นการเสียชีวิตของนายอา เซ ไค ว่า มีส่วนรู้เห็นเหตุการณ์หรือไม่


ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผู้ที่ร่วมก่อเหตุอีก 1 ราย คือ นาย GUNALAN DEIVASIGAMANI ชาวอินเดีย และได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วเช่นเดียวกัน

Admin

Admin

About Author

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

You may also like

News

พันเอก กอ.รมน.สระแก้ว รถชนต้นไม้ดับสลด

  • December 25, 2023
เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 25 ธ.ค.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัฒนานคร รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนต้นไม้บริเวณเกาะกลางถนน บนถนนทางหลวงสาย 33 สุวรรณศร ช่วงบริเวณด้านหน้าห้างโลตัส ก่อนถึงสี่แยกไฟแดงวัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์
News

เศรษฐา” มิกซ์แอนด์แมตช์ จัดธีมถุงเท้าเขียว-แดง เมอร์รี่คริสต์มาส ทักทายสื่อ

  • December 25, 2023
นายกฯ แวะทักทายสื่อฯ ที่ห้องผู้สื่อข่าว ก่อนขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า จัดเต็ม สวมถุงเท้าสีเขียว-สีแดง คนละข้าง เนื่องในเทศกาลวันคริสต์มาส สั่งขนมปังจากอิตาลีให้สื่อทาน ก่อนบอก เย็นนี้เจอกันในงานเลี้ยง วันที่ 25 ธ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับความเคลื่อนไหว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในวันนี้เมื่อเวลา