ตร. สอบ “โบว์” รับซื้อรถ เพื่อหาหลักฐานโยง “ไอ้วา” ก่อเหตุฆ่าเผานั่งยาง
คืบหน้าอุ้มหนุ่มกาฬสินธุ์ฆ่าเผานั่งยาง หลังตำรวจไปนำรถเก๋งผู้ตายถึง สภ.หนองปรือ ตำรวจลุยสอบเข้ม “ไอ้โบว์” คนรับซื้อรถทันที
จากกรณีเกิดเหตุสะเทือนขวัญฆ่าเผานั่งยางนายธนาธิป แวดไธสง หรือโน่ อายุ 31 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ มีอาชีพขับรถเก๋ง รับ-ส่ง ผู้โดยสาร ผ่านแอปพลิเคชัน (Grab-bolt) ในพื้นที่เมืองพัทยา โดยคนร้ายก่อเหตุแทงผู้ตายในเขต สภ.ห้วยใหญ่ แล้วอุ้มศพใส่รถเก๋ง โตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน ขข 7103 อุบลราชธานี ซึ่งเป็นรถของผู้ตาย นำศพไปเผาด้วยยางรถยนต์ 4 เส้น เพื่ออำพรางคดี
ล่าสุดเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 16 ม.ค. 67 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 คุมตัวนายพรเทพ วรสิงห์ หรือโบว์ อายุ 39 ปี พักอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 39 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ส่ง ร.ต.อ.องอาจ ทุมสุด รองสว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ เพื่อสอบปากคำ และนำรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน ขข 7103 อุบลราชธานี ของนายธนาธิป แวดไธสง หรือโน่ อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้ตาย มาที่สภ.หนองปรือ หลังจากเจ้าหน้าที่ไปพบจอดอยู่ที่ เอ เพลส อพาร์ตเมนต์ ภายในซอยเพชรเกษม 69
จากการสอบสวน นายพรเทพ ให้การว่า นายธีรพรรดิ์ สมคำ หรือวา อายุ 23 ปี ผู้ต้องหา ได้โทรศัพท์มาสอบถามตนเพื่อจะนำรถคันดังกล่าวของผู้ตายมาขาย จึงได้ถามว่าเอารถคันนี้มาจากไหน นายวา ตอบว่า น้านำมาจำนำ 5 หมื่นบาทเป็นเวลา 2-3 เดือนแล้ว ตนจึงถามกลับไปว่าน้ายังส่งดอกเบี้ยอยู่ไหม นายวา กล่าวว่า ยังส่งอยู่ แต่ต้องการใช้เงิน ตนจึงถามอีกว่า แล้วจะไม่ผิดใจกับน้าเหรอ นายวา ตอบว่า ครอบครัวผมเป็นแบบนี้แหละ ตนจึงได้บอกไปว่าก็ลองโทรถามขายดู จากนั้นนายวาก็เงียบหายไป
ต่อมาเช้าวันที่ 13 นายวา โทรศัพท์มาหาตนแล้วบอกว่ามีเรื่องแล้วรถชน พร้อมกับส่งรูปรถชนมาให้ตน แล้วบอกว่ามีคนเมาขับมาชน ผมไม่ผิด ผมมีหลักฐานทุกอย่าง ตนจึงบอกให้คุยกับคู่กรณี นายวาได้ส่งเบอร์โทรศัพท์คู่กรณีรถชนให้กับตน ตนจึงโทรไปคุยทางคู่กรณีได้บอกกับตนว่า ผมก็ยอมรับผิดผมดื่มมา แต่ก็ผิดทั้งคู่เพราะนายวาตัดหน้าตนจึงบอกไปว่ารับผิดชอบครึ่งๆ ไหม ทางคู่กรณีตอบตกลง
นายพรเทพ กล่าวว่า ตนเป็นนักขาย ตนรับทำหมดตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ จึงได้คุยกับ นายวา ว่าตนสามารถซ่อมได้ในราคาหมื่นกว่าเพราะตนหาอะไหล่มือสองได้ แต่ถ้าไปอู่อาจจะเสียถึงสองหมื่นบาท นายวาจึงตอบตกลงและจะนำรถมาให้ดูวันที่ 14 จะเอารถไปให้ซ่อมและบอกว่าถ้าซ่อมแล้วขายได้ก็ขายไปเลย จากนั้นเวลาประมาณสี่ทุ่มของวันที่ 14 นายวาได้โทรศัพท์มาหาตนอีก แล้วถามว่าไม่มีด่านแน่นะเพราะรถชนมาและไม่มีใบขับขี่ ตนจึงบอกไปว่าจะกลัวทำไม ให้บอกกับด่านให้ชัดเจนว่าจะนำรถไปซ่อม ซึ่งตนได้หาอะไหล่และอู่ซ่อมไว้แล้วตนไปหาอะไหล่มือสองมาได้ประมาณ 6-7 พันบาท แต่ได้เรียกนายวาไป 12,000 บาท พอเช้าวันที่ 15 โทรหาตนแล้วบอกว่า ผมมาถึงตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ตนจึงรับรถแล้วแยกย้ายกับนายวา หลังจากนั้นได้พยายามโทรศัพท์หานายวาเพราะเป็นวันที่นัดเคลียร์เงินค่าเสียหายกับคู่กรณีและจะสอบถามถึงเงินที่จะนำมาซ่อมรถแต่นายวาไม่รับสาย ซึ่งเท่าที่คุยกับนายวามา นายวาเป็นเด็กเก็บกดไม่ก้าวร้าว ตนมีแต่สอนและเตือนตนยังเคยแนะนำให้ขายหมูกรอบและตนยังให้กำลังใจแม่ของนายวาว่าให้สู้ๆ ตนก็เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวมา นายพรเทพกล่าว
ส่วนรถคันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำมาจอดไว้ที่ด้านหลังสภ.หนองปรือ เพื่อรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรชลบุรีมาตรวจหาหลักฐานประกอบคดีในเช้าวันนี้ (16 ก.ค.) ต่อไป