หิ้วปู่สอบกลางดึก คดีศพเด็กยัดตู้เย็น รับป้อนข้าวเหนียวให้ ก่อนหายตัว

ตำรวจหิ้วตัวปู่สอบกลางดึก รับป้อนข้าวเหนียวกับกล้วยน้ำว้าให้เด็กชายวัย 2 ขวบจริง ก่อนหายตัวไปไม่ได้เจอ 2 วัน ขณะที่น้องสาวนายแบงค์ปัดให้สัมภาษณ์กล่าวแต่เพียงรีบไปให้ปากคำที่ สภ.บางบัวทอง

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 7 ม.ค. 67 จากกรณีพบศพเด็กถูกห่อผ้ามัดสายสิญจน์ยัดตู้เย็น บ้านเลขที่ 2/613 ซอย 11/2 หมู่ 4 หมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ภายในห้องนอนของนายหาญณรงค์ หรือแบงค์ ไพรพนม อายุ 31 ปี และน.ส.มาริสา หรือก้อย ทองเอี่ยม อายุ 25 ปี สองสามีภรรยาซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยง โดยสภาพศพขึ้นอืดมาแล้วประมาณ 3 วัน

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเกิดเหตุพบว่า ยังคงปิดประตูเงียบ โดยมี นายสมบุญ ไพรพนม หรือปู่อู๊ด อายุ 69 ปี สามีของนางยุพา เจ้าของบ้าน อยู่ภายในบ้าน แต่ไม่มีเสียงตอบออกมา 

ต่อมาเวลา 09.00 น. น.ส.กิ๊ก น้องสาวของนายแบงค์ เดินทางออกจากบ้านที่เกิดเหตุและได้กล่าวว่าจะไปที่ สภ.บางบัวทอง เพื่อที่จะให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง และไม่ขอให้สัมภาษณ์ ก่อนที่จะนั่งรถวินจักรยานยนต์ออกไป

ด้าน น.ส.น้อย บ้านตรงข้ามที่เกิดเหตุ ได้มาเรียก ลุงอู๊ด กับป้ายุพา ที่บริเวณหน้าบ้านแต่ก็ไม่มีเสียงตอบออกมา ได้กล่าวว่า เมื่อเช้าก็นำข้าวมาให้ และเป็นห่วงแกทั้งสองคนเนื่องจากมีอายุมากและตาลุงอู๊ดก็มองไม่ค่อยเห็น และเมื่อเช้าไปตลาดมีแต่คนพูดเรื่องเด็ก 2 ขวบเสียชีวิตในตู้เย็นภายในซอยดังกล่าว โดยแต่ละร้านก็มีการจับกลุ่มพูดคุยในเรื่องนี้กันเกือบทุกร้านค้า

และเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (6 ม.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายสมบุญ ไพรพนม หรือ ปู่อู๊ด อายุ 70 ปี ซึ่งพิการทางสายตา และอยู่อาศัยในบ้านหลังเกิดเหตุเดินทางมาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังถูกนายแบงค์และ น.ส.ก้อย หลานชายกับหลานสะใภ้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและซัดทอดว่า นายสมบุญหรือปู่อู๊ดเป็นคนป้อนข้าวเหนียวให้กับ “น้องไนซ์” เด็กชายวัย 2 ขวบ ก่อนที่จะเสียชีวิตจากสาเหตุข้าวเหนียวติดคอ

โดยนายสมบุญ ให้ปากคำว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 ม.ค. ขณะตนกำลังนั่งฟังวิทยุและกินข้าวเหนียวกับลาบหมูอยู่ในบ้านชั้นล่างนั้น น้องไนซ์ได้เดินเข้ามากอดตน ตนจึงได้ลูบหัวแล้วถามว่าเอาข้าวเหนียวไหม น้องไนซ์ก็ยกกระติบข้าวเหนียวมาใส่ที่มือของตน ตนจึงได้หยิบเอาข้าวเหนียวป้อนให้ไปหนึ่งคำ โดยยังได้บอกกับน้องไนซ์ด้วยว่า เคี้ยวให้ดีๆ ระวังติดคอเสร็จแล้วให้กินน้ำตาม ต่อมาเด็กชายได้จับมือตนไปที่กล้วยน้ำว้าที่วางอยู่ ตนจึงหยิบกล้วยน้ำว้าขึ้นมาแกะแล้วแบ่งครึ่งให้เด็กกินครึ่งลูกและตนก็กินอีกครึ่งลูกที่เหลือ จนกระทั่งตนกินอาหารเสร็จก็กินยาตาม ส่วนน้องไนซ์ตนได้ยินเสียงวิ่งกลับไปที่ห้องแล้ว ตนจึงเดินออกไปคัดแยกขวดกับของเก่าเพื่อเตรียมไว้ขาย และหลังจากนั้นตนก็ไม่ได้เจอน้องไนซ์อีกเลย โดยเข้าใจว่านายแบงค์หลานชายและนางก้อยหลานสะใภ้ได้พาน้องไนซ์ไปส่งคืนให้กับพ่อเด็กตัวจริงแล้ว เพราะไม่ได้ยินเสียงของน้องไนซ์มาตั้งแต่วันที่ 3 ถึง 5 ม.ค. ได้ยินแต่เสียงเข้าออกบ้านของนายแบงค์กับนางก้อยเพียงเท่านั้น

ภายหลังจากการสอบปากคำนายสมบุญ ไพรพนม หรือ ปู่อู๊ด เสร็จแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวนายสมบุญกลับไปส่งที่พักยังบ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อรอสรุปสำนวนในคดีนี้ต่อไป