Tech

Bill Gates ทำนายปัญญาประดิษฐ์เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาปฏิวัติการทำงาน สุขภาพ และการศึกษา

บิล เกตส์ โพสต์บล็อกความยาว 6 หน้าบนเว็บไซต์ส่วนตัว เชื่อปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อวงการการทำงาน สุขภาพ และการศึกษา 

บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ เผยแพร่เว็บบล็อกความยาว 6 หน้าบนเว็บไซต์ Gates Note คาดการณ์ผลกระทบในอนาคตของโลกเทคโนโลยีที่อาจเกิดขึ้นในปี 2024 โดยเฉพาะเรื่องปัญญาประดิษฐ์ 

ข้อความตอนหนึ่งของบิล เกตส์ ระบุว่า เทคโนโลยีเป็นเหตุเป็นผลสำคัญที่ทำให้ชีวิตของพวกเราดีขึ้นในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา จากไฟฟ้าไปจนถึงรถยนต์ ต่อด้วยยารักษาโรค และเครื่องบิน ซึ่งเหล่านี้เป็นนวัตกรรมที่ทำให้โลกดีขึ้น

เกตส์ อธิบายต่อไปว่า ประเทศที่มีรายได้สูงอย่างสหรัฐอเมริกา คงใช้เวลาประมาณ 18-24 เดือน ก่อนจะเริ่มหยิบปัญญาประดิษฐ์มาใช้อย่างมีนัยสำคัญ แต่ประเทศที่มีรายได้น้อยอย่างประเทศในทวีปแอฟริกากว่าที่จะใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในระดับเดียวกัน มีโอกาสล่าช้ากว่า 3 ปีเลยทีเดียว

บิล เกตส์ แจกแจงต่อไปว่า ในมุมมองของเขาปัญญาประดิษฐ์จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการการทำงาน สุขภาพ และการศึกษา ทั้งนี้ เกตส์ บอกว่า เขาได้เริ่มใช้เอไอในการทำงานในปี 2023 ด้วยเหตุผลสำคัญบางประการ

เกตส์ ระบุว่า เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ โลกมีความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้นว่า งานประเภทใดที่ปัญญาประดิษฐ์ทำเองได้ หรือเป็นหน้าที่ของมนุษย์ หลายบริษัทมีการพัฒนาเครื่องมือด้านเอไอเพื่อส่งเสริมการทำงานของพนักงาน หรือบางบริษัทก็ใช้เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้งานฟรี

อย่างไรก็ดี เกตส์ ยอมรับตรงไปตรงมาว่า เขาไม่ได้เข้าใจปัญญาประดิษฐ์ทั้งหมด และบอกด้วยว่า หากคุณคิดไม่ออกว่าจะใช้เอไอให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร คุณไม่ได้เจอปัญหานั้นอยู่ตัวคนเดียว

ประเด็นที่สองเป็นเรื่องปัญญาประดิษฐ์ในระบบสุขภาพ เรื่องนี้ถือเป็นความพยายามที่ทะเยอทะยานเป็นอย่างมาก แต่ก็อยู่ในช่วงเริ่มต้น และไม่น่าจะได้เห็นเป็นรูปเป็นร่างในปีหน้า อีกทั้งบางส่วนก็ยังไม่ได้พัฒนาไปไกลกว่าที่อยู่ในห้องแล็บ เพียงแต่ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์มีโอกาสเป็นความยิ่งใหญ่ทางเทคโนโลยีที่สุดในช่วงปลายทศวรรษนี้

เกตส์ บอกว่าบางโครงการที่เขารับรู้ในตอนนี้มีความพยายามใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้าไปจัดการ เช่น การต่อสู้กับการดื้อยาปฏิชีวนะ การดูแลผู้ตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง และการประเมินความเสี่ยงการติดเชื้อเอชไอวี ฯลฯ

สุดท้ายเป็นเรื่องของการศึกษา อดีตผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ เคยตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า เอไอจะมีส่วนสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านระบบการศึกษา ผ่านการส่งมอบเนื้อหาที่เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคน โดยเฉพาะวิชาใดที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้เรียน แล้ววิชาใดที่ผู้เรียนหมดความสนใจ 

นอกจากนี้ เกตส์ ยังรู้สึกตื่นเต้นไปกับความเป็นไปได้ที่จะได้เห็นการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ แต่ละภูมิภาคของผู้เรียนทั้งโลก เพื่อให้เข้าใจและคำนึงถึงบริบททางวัฒนธรรมที่เฉพาะเจาะจง

ที่มา: GatesNotes

Admin

Admin

About Author

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

You may also like

Tech

สุดยอด!! 19 ผลงานเด่นผลงานสิ่งประดิษฐ์สายอาชีวศึกษา

  • December 26, 2023
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดกิจกรรมการบ่มเพาะเพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมสายอาชีวศึกษา : Smart Invention & Innovation ประจำปี 2567ภาคกลางและภาคตะวันออก โดยมีสถานศึกษาภาคกลางและภาคตะวันออกจำนวน 43 สถาบัน เข้าร่วมกิจกรรม ระหว่างวันที่ 18 – 20 ธันวาคม
Tech

ถึงยุค ‘เทคฯจีน’ ต้องการ ‘คนทักษะเฉพาะทาง’ ปริญญาตรี อาจไม่จำเป็นอีกต่อไป

  • December 26, 2023
บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน ถือเป็นสถานที่ทำงานในฝันของเด็กจบใหม่มาโดยตลอด ทว่าในปัจจุบัน สิ่งที่บริษัทเหล่านี้ต้องการ กลับไม่ใช่คนที่จบปริญญาสูง ๆ แต่เป็นคนที่มีทักษะเฉพาะทางมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้พวกเขาจะไม่ได้จบมหาวิทยาลัยก็ตาม Key Points ในค่านิยมดั้งเดิมของชาวจีนนั้น ยิ่งจบการศึกษาสูงก็ยิ่งมีโอกาสในอาชีพการงานดีขึ้น พ่อแม่หลายคนใฝ่ฝันให้ลูกมีการศึกษาอย่างน้อยเป็นปริญญาตรี แต่ปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนไป เมื่อหลายบริษัทเทคโนโลยีและผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีนต้องการเด็กจบสายอาชีวศึกษามากกว่า โดยมีความเชี่ยวชาญภาคปฏิบัติในเฉพาะทาง แม้จะไม่มีวุฒิปริญญาก็ตาม สำนักข่าว CNBC